rss
email
facebook

2553/09/29

Movie preview : Devil ปล่อยข้อมูลเต็มที่ ก่อนสยองพร้อมกันในวันพฤหัสนี้ !!

Movie preview : Devil
คนแปลกหน้าห้าคนในฟิลาเดลเฟียเริ่มต้นชีวิตในวันนั้นด้วยการใช้ ชีวิตตามปกติอย่างที่สุด พวกเขาเดินเข้าไปในอาคารสำนักงานและก้าวเข้าไปในลิฟต์ เมื่อ พวกเขาเข้ามาอยู่ด้วยกันในที่แคบๆ นี้ พวกเขาถูกบีบให้ต้องร่วมแบ่งปันพื้นที่คับแคบกับคนแปลกหน้า ไม่มีใครสนใจใคร พวกเขาแค่มาอยู่ด้วยกันชั่วครู่ แต่เหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงเหตุบังเอิญ กลับไม่ใช่ความบังเอิญเมื่อลิฟต์เกิดติด โชคชะตากำลังส่งเสียงเรียกร้อง วันนี้คนแปลกหน้าทั้งห้าคนมีความลับที่ต้องถูกเปิดเผย และพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการคิดหาหนทางฝ่าออกไปให้ได้
สถานการณ์ของพวกเขาค่อยๆ เปลี่ยนจากความน่ารำคาญไปเป็นสถานการณ์หมดหวังโดยสิ้นเชิงและเกิดความหวาด กลัวจนน่าสังเวช เริ่มมีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้นกับพวกเขาแต่ละคน ทีละคน จนพวกเขาหวาดระแวงกันและกันว่าใครในห้าคนนี้เป็นคนก่อให้เกิดเหตุการณ์ทั้ง หมดขึ้น…
ขณะที่ผู้คนที่อยู่ด้านนอกพยายามจะช่วยพวกเขาให้เป็นอิสระอย่างไม่เป็นผลนัก คนในลิฟต์ที่ยังเหลืออยู่ รู้ตัวดีว่าหนทางเดียวที่พวกเขาจะรอดชีวิตออกไปได้ ก็คือการเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายที่นำพวกเขาเดินหน้ามาจนถึงวันนี้

Devil คือผลงานเรื่องแรกในกลุ่มเรื่องเขย่าขวัญสั่นประสาทชุด The Night Chronicles ซึ่งเป็นจินตนาการจากมันสมองของ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน (The Sixth Sense, Signs) บัดนี้เขาได้เปลี่ยนมันให้กลายมาเป็นภาพยนตร์จากฝีมือของผู้กำกับที่กำลังมา แรง ขณะที่ทีมผู้เขียนบทและผู้กำกับที่มีพรสวรรค์เหล่านี้ได้มอบชีวิตให้กับ เรื่องราวจากมันสมองของชยามาลาน เขาได้ร่วมมือร่วมใจกับผู้สร้างภาพยนตร์เก่งๆ เหล่านี้สรรหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อทำให้คนดูขนหัวลุกในภาพยนตร์ชุด The Night Chronicles นี้
Devil กำกับโดย จอห์น เอริค ดาวเดิล (Quarantine, The Poughkeepsie Tapes) จากบทภาพยนตร์ที่เป็นฝีมือการเขียนบทของ ไบรอัน เนลสัน (Hard Candy, 30 Days of Night) และเรื่องราวที่กลั่นจากจินตนาการของชยามาลาน
ที่ทำหน้าที่นำทีมนักแสดงของภาพยนตร์ทริลเลอร์เรื่องนี้ ก็คือ คริส เมสซิน่า (Julie & Julia, Vicky Cristina Barcelona), โลแกน มาร์แชลล์-กรีน (Brooklyn’s Finest, Across the Universe), เจฟฟรีย์ อาเรนด์ ((500) Days of Summer, ผลงานทางทีวีเรื่อง Trust Me), โบจาน่า โนวาโกวิค (Drag Me to Hell, Edge of Darkness), เจนนี่ โอฮาร่า (Mystic River, Matchstick Men), โบคีม วู้ดไบน์ (The Last Sentinel, Three Bullets) และเจค็อบ วาร์กัส (Death Race, Jarhead)
Devil อำนวยการสร้างโดยชยามาลาน และแซม เมอร์เซอร์ (Signs, Unbreakable) โดยมีดรูว์ ดาวเดิล (Quarantine, The Poughkeepsie Tapes) และทริช ฮอฟแมนน์ (The Ruins, The New World) ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหาร
ทีมงานหลังกล้องที่ประสบความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้แก่ ผู้กำกับภาพ ทัก ฟูจิโมโต้ (The Sixth Sense, The Silence of the Lambs), โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ มาร์ติน วีสต์ (Cloverfield, Smokin’ Aces), ผู้ลำดับภาพ เอลเลียต กรีนเบิร์ก (Quarantine, Sorority Row), ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เอริน บีแนช (Half Nelson, Sugar) และผู้แต่งดนตรีประกอบ เฟอร์นันโด เวลาซเควซ (The Orphanage, Shiver)

ชื่อภาพยนตร์ DEVIL
ชื่อไทย ปีศาจ
วันที่เข้าฉาย 30 กันยายน 2553
จัดจำหน่าย บริษัท ยูไนเต็ด อินเตอร์ เนชั่นแนล พิคเจอร์ส (ฟาร์อีสต์)
เว็บไซต์ www.thenightchronicles.com/devil
ทีมนักแสดง
คริส เมสซิน่า (CHRIS MESSINA) รับบท เจ้าหน้าที่โบว์เด้น
โลแกน มาร์แชลล์-กรีน (LOGAN MARSHALL-GREEN) รับบท ช่างเครื่อง
เจฟฟรีย์ อาเรนด์ (GEOFFREY AREND) รับบท เซลส์แมน
โบจาน่า โนวาโกวิค (BOJANA NOVAKOVIC) รับบท หญิงสาว
เจนนี่ โอฮาร่า (JENNY O’HARA) รับบท หญิงชรา
โบคีม วู้ดไบน์ (BOKEEM WOODBINE) รับบท พนักงานรักษาความปลอดภัย
เจค็อบ วาร์กัส (JACOB VARGAS) รับบท รามิเรซ

ทีมผู้สร้าง
จอห์น เอริค ดาวเดิล (JOHN ERICK DOWDLE) – ผู้กำกับ
ไบรอัน เนลสัน (BRIAN NELSON) – ผู้เขียนบท
เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน (M. NIGHT SHYAMALAN) – ผู้คิดสร้างสรรค์เรื่อง/ ผู้อำนวยการสร้าง
แซม เมอร์เซอร์ (SAM MERCER) – ผู้อำนวยการสร้าง
ทริช ฮอฟแมนน์ (TRISH HOFMANN) – ผู้อำนวยการสร้างบริหาร
ดรูว์ ดาวเดิล (DREW DOWDLE) – ผู้อำนวยการสร้าง
ทัก ฟูจิโมโต้ (TAK FUJIMOTO, ASC) – ผู้กำกับภาพ
มาร์ติน วีสท์ (MARTIN WHIST) – โปรดักชั่น ดีไซเนอร์
เอลเลียต กรีนเบิร์ก (ELLIOT GREENBERG) – ผู้ลำดับภาพ
เฟอร์นันโด เวลาซเควซ (FERNANDO VELÁZQUEZ) – ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบ
เอริน บีแนช (ERIN BENACH) – ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย

เบื้องหลังงานสร้าง
บทที่ 1:
บันทึกแห่งราตรีเริ่มต้น

“ทุกคนเริ่มเชื่อในตัวเขาทีละน้อย
แม้แต่คนอย่างพวกคุณที่เสแสร้งทำเป็นไม่เชื่อ”

—รามิเรซ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน ซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ ได้จดบันทึกไอเดียมากมายที่สามารถนำมาแปลงเป็นเรื่องที่เขาจินตนาการเอาไว้ ว่า สักวันจะนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อหน้ากระดาษของสมุดโน้ตของเขาเริ่มเต็ม ชยามาลานรู้ดีว่าเขาคงไม่สามารถเปลี่ยนไอเดียทั้งหมดนั้นให้กลายเป็นบท ภาพยนตร์ที่กำกับด้วยตัวเขาเองได้ เขาเล่าว่า “คุณใส่ความรักของคุณเข้าไปในทุกเรื่องราวเหล่านั้น และคุณรู้ดีว่าคุณไม่สามารถกำกับเรื่องราวทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองแน่ ผมเลยตัดสินใจหยิบเอาไอเดียเหล่านั้นมาบางส่วน และสร้างมันให้กลายเป็นภาพยนตร์ซีรีส์ที่กำกับและแสดงโดยผู้กำกับและนักแสดง ที่กำลังมาแรง”
ชยามาลานร่วมมือกับ แซม เมอร์เซอร์ ผู้อำนวยการสร้างที่ทำงานด้วยกันมานาน และมีเดีย ไรทส์ แค็ปปิตอล (MRC) เพื่อลงมือสร้างภาพยนตร์ชุด The Night Chronicles ซึ่งเป็นภาพยนตร์ชุดที่สร้างจากไอเดียที่ชยามาลานคิดเอาไว้ ในข้อตกลงของพวกเขา MRC ตกลงใจที่จะอำนวยการสร้างภาพยนตร์จากไอเดียดั้งเดิมของชยามาลาน และ Devil ก็คือภาพยนตร์เรื่องแรกในจำนวน 3 เรื่องที่จะสร้างออกมาภายใต้ชื่อบริษัทแห่งนี้ ชยามาลานอธิบายว่า “Devil เป็นภาพยนตร์ที่ขายความน่ากลัวแบบสุดๆ กันตรงๆ มันเป็นเรื่องที่ผุดขึ้นมาในหัวของผมมากที่สุดตอนที่เราตัดสินใจจะสร้าง ภาพยนตร์ชุด The Night Chronicles”
เมื่อถามเขาถึงแรงบันดาลในการยอมให้เพื่อนศิลปินด้วยกันเป็นผู้ ทำให้ไอเดียของเขาโลดแล่นมีชีวิตขึ้นมา ชยามาลานหัวเราะ “มันอาจดูเป็นเรื่องของความมีน้ำใจ แต่ที่จริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกนะ ผมอยากเป็นแรงบันดาลใจ ผลักดัน และเชื่อมโยงถึงคนดู ซึ่งคงจะดีที่มีคนรุ่นใหม่ที่สามารถเชื่อมโยงเข้ากับจังหวะความรู้สึกของคน ทุกวันนี้มาทำงานด้วย เป็นเรื่องดีที่ยังอยู่ในเกมส์ ได้เสี่ยง และมีคนท้าทายผมอย่างต่อเนื่อง มันคือหนทางที่จะคงความตื่นเต้นเอาไว้”
คอนเซ็ปต์ที่ชยามาลานมีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือการสำรวจสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าซาตานเข้ามาควบคุมบงการและจับคนมาขังเอา ไว้ในที่เดียวกัน และลงโทษพวกเขาจากสิ่งที่กระทำผิดไป ชยามาลานอยากเห็นว่าซาตานจะแฝงตนอยู่ในหมู่พวกเราและนำคนที่มีความเลวร้าย เหมือนๆ กันมาอยู่ในสถานการณ์หนึ่งได้อย่างไร…และเขาจะทดสอบคนเหล่านั้นอย่างมีหลัก เกณฑ์ได้อย่างไรก่อนที่จะเผยตัวตนของเขาออกมา
ชยามาลานเลือกใช้ฉากลิฟท์ในอาคารสำนักงานที่แสนธรรมดาเป็นโลเก ชั่น ที่ซึ่งคนห้าคนที่ต้องคำสาปต้องมาเจอกัน เขาได้อธิบายเหตุผลไว้ว่า “ปกติแล้วเมื่อคุณเข้าไปอยู่ในลิฟท์ คุณจะไม่มองหน้าใคร จากนั้นพอประตูเปิดออก คุณก็จะเดินออกไป แต่ถ้าคุณไปติดอยู่ในพื้นที่คับแคบนั้น คุณก็ต้องมองทุกคนและถามคำถามว่า ‘ฉันมาติดอยู่ในนี้กับใครกันเนี่ย?’ จากนั้น เมื่อเรื่องเลวร้ายเรื่องแรกเกิดขึ้น ใบหน้าเหล่านั้นทั้งหมดเริ่มกลายเป็นใบหน้าที่คุกคามและข่มขวัญกันน่าดู”
แซม เมอร์เซอร์ ผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ สนใจที่จะมาร่วมสร้างภาพยนตร์เรื่อง Devil นี้ เพราะเขารู้สึกว่ามันนำเสนอ “เรื่องราวที่คนดูคุ้นเคยดี เป็นเรื่องที่มาพร้อมกับเรื่องสำคัญของมนุษย์ปุถุชนธรรมดา เราทุกคนมีโอกาสที่จะเดินเข้าไปในลิฟท์ เราสามารถเข้าไปติดอยู่ในนั้นกับคนหกคนเป็นเวลาหกชั่วโมง และเจอประสบการณ์ที่ทำให้เกิดอารมณ์ว้าวุ่นได้”
“หนึ่งในฝันร้ายที่ร้ายที่สุดก็คือการไปติดอยู่ที่ใดสักแห่ง” เมอร์เซอร์กล่าวต่อ “ลองคิดซิว่าคุณไม่อยากไปติดอยู่ที่ไหนบ้าง และนั่นก็คือการติดอยู่ในลิฟท์ที่ค้างอยู่ระหว่างชั้นที่ 21 และ 22 เมื่อแสงไฟดับวูบ เสียงเพลงนุ่มหูเงียบลง และเกิดความวุ่นวายสับสนขึ้น ผู้คนเริ่มล้มตาย นั่นแหละสุดสยองเลย นั่นคือสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึง การตกเป็นเหยื่อความหวาดกลัวของตัวเอง”
ชยามาลานอธิบายว่าความสนใจที่เขามีต่อการสร้างภาพยนตร์ชุดนี้ เกิดมาจากคนที่เขาชื่นชมจนยกให้เป็นแบบอย่าง “อากาธา คริสตี้คือเจ้าของผลงานเรื่องราวที่ผมอยากเอาเป็นเยี่ยงอย่างที่สุด” ชยามาลานบอก “ผมอยากให้คนดูได้ดูเรื่องราวจากตัวผม เป็นการเล่าเรื่องราวชีวิตช่วงหนึ่งในชีวิตของผมหรือพูดถึงสิ่งที่ผมเชื่อ The Night Chronicles คือผลงานที่มอบโอกาสนั้นให้กับผม”
เมื่อความหวาดระแวงบังเกิด:
Devil เริ่มพัฒนางานสร้าง

สำหรับชยามาลาน กระบวนการในการเลือกมือเขียนบทและผู้กำกับสำหรับภาพยนตร์ชุด The Night Chronicles กลายมาเป็นการหาความรู้ในงานภาพยนตร์ที่ถูกขยายให้ขยายกว้างออกไป เมื่อเขาเริ่มต้นการค้นหา เขาได้ค้นพบขุมทรัพย์คนเก่ง เขากล่าวว่า “ผมได้เห็นภาพยนตร์ทริลเลอร์เขย่าขวัญเจ๋งๆ และภาพยนตร์สยองขวัญเยี่ยมๆ ที่ยังไม่ได้ถูกสร้างออกมา และยังได้พูดคุยกับคนทำหนังเหล่านี้ และเห็นว่าพวกเขาคิดกันยังไง”
เมื่อตัดสินใจจะสร้างภาพยนตร์ชุดนี้ ชยามาลานจึงเริ่มมองหาตัวมือเขียนบทที่จะมาขยายไอเดียแรกเริ่มที่เขาได้คิด ขึ้นมา ซึ่งพูดถึงเรื่องของคนแปลกหน้าห้าคนที่มีความเกี่ยวพันกันด้วยเส้นใยเล็กๆ ที่มีร่วมกัน และพวกเขาต้องมาติดอยู่ด้วยกันในลิฟท์ของอาคารสำนักงานในฟิลาเดลเฟีย โชคร้ายสำหรับคนแปลกหน้าสี่คน เพราะหนึ่งในห้าคนนั้นดันกลายเป็นซาตานตัวจริงเสียงจริง ด้วยเรื่องราวง่ายๆ แต่ชวนขนหัวลุกนี้ ชยามาลานต้องการคนเขียนบทที่มีเซนต์ที่ต้องกันกับเขาเพื่อมอบชีวิตให้กับไอ เดียของเขาและโลดแล่นความสนุกไปกับมันได้
เขาพบคุณลักษณะเช่นนั้นในตัวไบรอัน เนลสัน ผู้เคยเขียนบทภาพยนตร์ให้กับภาพยนตร์ของ เดวิด สเลด เรื่อง Hard Candy ภาพยนตร์ที่ช่วยสร้างชื่อให้กับนักแสดงสาวรุ่นใหม่อย่างเอลเลน เพจ “ผมชอบบทภาพยนตร์เรื่อง Hard Candy ของไบรอัน เนลสันมาก” ชยามาลานบอก “มันเป็นงานเขียนบทที่ฉลาดปราดเปรื่อง ผมก็เลยจ้างเขาให้มาเขียนบทภาพยนตร์ให้ Devil เขาเปลี่ยนทรีตเม้นต์ความยาว 14 หน้าของผมให้กลายเป็นบทภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้นและพัฒนาไปจนสมบูรณ์แบบจริงๆ”
เมื่อได้บทภาพยนตร์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็ถึงเวลาที่ชยามาลานและเมอร์เซอร์จะตัดสินใจเลือกผู้กำกับ และเมื่อมีข่าวแพร่กระจายออกไปว่าภาพยนตร์ชุด The Night Chronicles กำลังมองหาผู้กำกับรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างเรื่องราว ของมนุษย์กับเรื่องราวดราม่าสุดเข้มข้นและความตื่นเต้นเขย่าขวัญ ทางทีมผู้สร้างก็ได้รับข้อเสนอมากมายทีเดียว
ชยามาลานเล่าถึงกระบวนการคัดเลือกตัวพี่น้อง จอห์น เอริค และดรูว์ ดาวเดิล ให้มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ผมได้รับภาพยนตร์ที่ดูแล้วรู้สึกรบกวนจิตใจอย่างมากเรื่อง The Poughkeepsie Tapes ผมได้ดูมัน และภาพยนตร์เรื่องนั้นก็เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ผมได้ดูในบ้านหลังใหม่ของ ผม มันเป็นการตัดสินใจที่ร้ายกาจ เพราะมันทำให้ผมกลัวมากเลย ผมชอบงานสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมว่าผู้ชายสองคนนี้น่าทึ่งทีเดียว ผมได้ยินมาว่าพวกเขากำลังสร้างภาพยนตร์อีกเรื่อง ผมก็เลยไปขอร้องทางสกรีนเจมส์ให้ผมได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Quarantine ก่อนที่มันจะเปิดตัวฉาย”
ระดับความกลัวที่พี่น้องคู่นี้ได้สร้างเอาไว้ในภาพยนตร์ ทริลเลอร์เรื่องนั้นถึงกับทำให้ชยามาลานต้องตะลึงงัน เรื่องราวใน Quarantine บอกเล่าผ่านมุมมองของทีมทำข่าวที่เข้าไปติดอยู่ในอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งใน ลอสแอนเจลิสที่โดนปิดล้อมเอาไว้ โดยผู้เช่าห้องในอพาร์ตเม้นต์เหล่านั้นเกิดติดเชื้อโรคร้ายแรง Quarantine กลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในแวดวงภาพยนตร์สยองขวัญทันที
“ผมชอบภาพยนตร์เรื่อง Quarantine มากเลยนะ ผมรู้สึกว่าการผสมผสานของภาพยนตร์สองเรื่องที่พวกเขาสร้างออกมา ทำให้พี่น้องดาวเดิลมีมุมมองที่ลงตัวทีเดียวกับภาพยนตร์เรื่อง Devil” ชยามาลานบอก “พวกเขาเป็นคนที่นิสัยดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาพบได้ เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน มีความเฮี้ยว พวกเขาฉลาดมาก” ชยามาลานกล่าวเสริมว่า “แล้วพวกเขาก็บ้าและเพี้ยนพอสำหรับงานนี้ เมื่อแสงไฟถูกเปิดจนสว่าง ผมคิดเลยว่า ‘สองคนนี้แหละ ใช่เลย!’”
การต้องสละเก้าอี้ผู้กำกับที่เขาเคยนั่งระหว่างสร้างภาพยนตร์ ฮิตอย่าง The Sixth Sense, Unbreakable และ Signs เป็นทั้งเรื่องที่ยากกว่าและง่ายกว่าที่ชยามาลานคาดการณ์เอาไว้ เขายอมรับว่า “ผมคุ้นเคยกับการเป็นผู้มีอำนาจเพียงคนหนึ่งเดียวในภาพยนตร์ของผม ดังนั้น มันก็ดีเหมือนกันที่สามารถปล่อยวางได้ กระบวนการทำงานทั้งหมดนี้ง่ายขึ้นเยอะถ้าคุณมีความเชื่อมั่นร้อยเปอร์เซ็นต์ ในตัวผู้กำกับที่ผมเลือกมา และมันก็สนุก เพราะผมกำลังเรียนรู้จุดแข็งของคนอื่นๆ ด้วย”
จอห์นและดรูว์ ดาวเดิลได้มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนงานสร้าง การคัดเลือกตัวนักแสดง และการถ่ายทำ จอห์น ดาวเดิลมีความเชื่อมั่นในตัวผู้อำนวยการสร้างของเขา “ไนท์เป็นคนที่น่าทึ่งมาก เขาฉลาด กระตือรือร้น และเขาก็ให้อิสระกับพวกเรา ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติอย่างมาก ไนท์เป็นผู้กำกับก่อน แล้วถึงเป็นผู้อำนวยการสร้าง ดังนั้นเขาจึงมอบอำนาจควบคุมให้กับเราในแบบที่ผู้กำกับทุกคนต่างฝันถึง เขาปล่อยให้เราคิดสร้างสรรค์และเพ้อฝัน และยังสนับสนุนให้เราสนุกกับงาน สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างยิ่งดีขึ้นก็คือ เราคิดว่าเรื่องนี้ลงตัวกับพวกเราอย่างมาก เหมือนผลงานภาพยนตร์เรื่องก่อนๆ ของพวกเรา มันมีองค์ประกอบที่มีสไตล์ที่เน้นความสมจริงอยู่เยอะมาก”
ดรูว์ ดาวเดิลชอบความท้าทายที่เรื่องนี้มีให้พวกเขา กับการที่เรื่องราวดูจะย้าย “ความหวาดระแวง” ไปที่ตัวละครทุกตัวที่อยู่ในลิฟท์นั้น คนดูจะไม่แน่ใจเลยว่าใครคือซาตานจนกระทั่งมีการเปิดเผยในตอนท้ายเรื่อง ดรูว์กล่าวว่า “มันเป็นสถานการณ์ที่หาได้ยากมากที่เจ้านายของคุณท้าทายให้คุณคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มไอคิวให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาบีบให้เรานำสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถสร้างได้ใส่ลงไปในทุกรายละเอียด และเขายังจัดหาความสะดวกทุกอย่างให้เราเพื่อจะสร้างภาพยนตร์ที่มีขนาดงาน สร้างใหญ่กว่าที่พวกเราเคยเจอมา”
เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผู้อำนวยการสร้างทั้งสองที่พี่น้องดาว เดิลจะต้องรู้ว่าพวกเขากำลังสร้างภาพยนตร์ที่พวกเขาจะมองข้ามจุดเล็กๆ ไปไม่ได้เลย ชยามาลานเล่าว่า “ผมคิดว่าพวกเขาเป็นคนที่เท่าเทียมกับผมจริงๆ เวลามีอะไรเราก็จะพูดออกมาเลย ถ้ามีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ผมก็จะพูดความคิดของผมออกมา พวกเขาก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน มันคือสนามที่เราลงเล่นอย่างเท่าเทียมกัน ผมต้องการความเท่าเทียมและการกระตุ้นความคิดตลอดเวลา ผมไม่ต้องการควบคุมบงการ ผมอยากเรียนรู้ให้มากเท่ากับคนอื่นๆ ในกระบวนการทำงานนี้”
ชยามาลานได้สรุปประสบการณ์ที่เขาได้พบในการร่วมงานกับสองพี่น้อง ดาวเดิลว่า “มันเป็นประสบการณ์ที่ให้แรงบันดาลใจอย่างมากกับการได้ทำงานกับพี่น้องดาว เดิล ผมยังคงประทับใจกับจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาตลอดงานสร้าง ภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมไปถึงในกระบวนการคัดเลือกตัวนักแสดงด้วย เมื่อร่วมมือกัน เราได้พบกลุ่มนักแสดงที่มีความสามารถที่พวกเราเชื่อกันว่าจะต้องเป็นดารามา แรงในอนาคตอย่างแน่นอน”
งานชุมนุมของซาตาน:
การคัดเลือกตัวนักแสดงของภาพยนตร์ทริลเลอร์เหนือธรรมชาติ

ทีมนักแสดงที่เป็นหัวใจของ Devil ประกอบไปด้วยตัวละครห้าตัวที่ติดอยู่ในลิฟท์ภายในอาคารสำนักงาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจฟิลาเดลเฟียที่กำลังกลัดกลุ้ม กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองนายที่พยายามจะช่วยพวกเขาออกมาจากลิฟท์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ได้เกิดการฆ่าตัวตายที่เป็นการกรุยเส้นทางการมาถึงของซาตาน
สำหรับพี่น้องดาวเดิล เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องหาตัวนักแสดงที่เหมาะกับบท โดยไม่สนใจประวัติการทำงานของพวกเขาในช่วงที่มีการเตรียมงานสร้างอยู่ จอห์น ดาวเดิลเล่าว่า “เราใช้วิธีหว่านหาในวงกว้างไปก่อน และค่อยหานักแสดงที่เหมาะที่สุดกับบทบาท สำหรับพวกนักแสดงในลิฟท์ เราต้องเลือกนักแสดงเป็นกลุ่ม เป็นเรื่องสำคัญทีเดียวที่จะต้องหาคนที่มีลักษณะแตกต่างกันห้าคน เพื่อนำพลังอันโดดเด่นมาสู่บท รวมไปถึงสร้างความแตกต่างระหว่างพวกเขา เรารู้ดีว่านักแสดงแต่ละคนในจำนวนห้าคนนี้ต้องมีสไตล์การแสดงที่แตกต่างกัน และต้องมีความรู้สึกในการแสดงที่แตกต่างกันด้วย”
การเลือกตัวนักแสดงให้มาแสดงเป็นตัวละครเหล่านี้ไม่ใช่งานเล็กๆ เลย บททั้งห้าเรียกได้ว่าแทบจะเป็นหนึ่งเดียวกัน ทางทีมผู้สร้างมองว่าแต่ละบทบาทต่างเป็นส่วนหนึ่งของทีมนักแสดงรวม พวกเขาต้องการนักแสดงหน้าใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้คนดูเกิดการคาดเดาไปล่วง หน้าเพราะบทบาทที่พวกเขาเคยแสดงเอาไว้ในอดีต พวกเขาออดิชั่นนักแสดงเป็นร้อยๆ คน และในที่สุดก็เหลือคนที่เข้าตาแค่ 8 คนเท่านั้น
ชยามาลานสรุปความสำคัญของการคัดเลือกตัวนักแสดงไว้ว่า “Devil ถือเป็นงานของกลุ่มนักแสดงจริงๆ เพราะพลอตเรื่องเกิดขึ้นเพื่อค้นหาว่าใครในห้าคนที่มาติดอยู่ในลิฟท์คือ ซาตาน ดังนั้นคนทั้งห้าจึงสามารถที่จะกลายเป็นตัวละครเอกขึ้นมาได้ หรือไม่ก็โดนฆ่าตายได้ทุกเวลา นอกจากนี้ ยังมีตัวละครอีกสามตัวที่อยู่ด้านนอกที่ถือเป็นตัวละครที่มีความน่าสนใจไม่ แพ้กัน นักแสดงแปดคนที่ได้รับเลือกมาล้วนแต่มีความเท่าเทียมกันในแง่ของทักษะในการ แสดงและบุคลิกที่โดดเด่นบนจอ พวกเขาทุกคนสามารถเป็นดาราดังในอนาคตได้เลย”
ตัวละครหลักที่ติดอยู่ในลิฟท์ มีดังต่อไปนี้:
• วินซ์ เซลส์แมน (เจฟฟรีย์ อาเรนด์): วินซ์มีความเชื่อมั่นและอวดดีในฝีมือการขายของตัวเองซึ่งทำให้เขาสามารถของ ทุกอย่างให้กับทุกคนได้ เขาเป็นพวกชอบถากถางเหน็บแนม แต่แย่หน่อยที่เขาเก็บซ่อนความลับอันชั่วร้ายของตัวเองเอาไว้

• หญิงชรา (เจนนี่ โอฮาร่า): หญิงชราที่รู้สึกเหนื่อยล้ากับการเฝ้าระวังโลกที่ไม่น่าไว้วางใจ เธอแสดงความรู้สึกเหยียดผิวของเธอออกมาได้อย่างไร้ความละอายจนน่าตกใจ แต่ภายใต้รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูใจคอร้ายกาจและขี้หงุดหงิด เธอกลับมีจิตใจที่แข็งแกร่งจนน่าประหลาดใจ
• โทนี่ ช่างเครื่อง (โลแกน มาร์แชลล์-กรีน): โทนี่ คือชายที่มีรูปร่างกำยำแข็งแรง ขยันขันแข็ง แต่เขาเหมือนมีปมในใจ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมโลกถึงได้โหดร้ายกับเขาในทุกครั้งที่เขาพยายามที่จะ รักษาชีวิตให้มีความสมบูรณ์ แต่ตราบใดที่เขาคิดว่าเขามีเรื่องให้ต้องไถ่บาป เขาจะยังคงเดินหน้าต่อไป
• ซาร่าห์ หญิงสาว (โบจาน่า โนวาโกวิค): ซาร่าห์ที่เป็นสาวสวยรูปร่างบอบบาง รู้สึกเจ็บปวดที่มันสมอง ความเฉลียวฉลาด และรูปร่างหน้าตาของเธอ กลับไม่สามารถพาเธอไปได้ไกลเกินกว่าการแต่งงานกับผู้บริหารบริษัทที่มีฐานะ ร่ำรวย แต่ไม่เคยมีความนับถือในตัวเธอเลย แต่เธอจะไม่ยอมปล่อยให้ใครมาสร้างปัญหาให้เธอเด็ดขาด เธอยังตั้งใจที่จะหาว่าใครหรืออะไรที่เอาเปรียบเธอ
• เบน พนักงานรักษาความปลอดภัย (โบคีม วู้ดไบน์): เบนเป็นผู้ชายที่ดูเรียบร้อย แต่ภายใต้ชุดพนักงานรักษาความปลอดภัย กลับเต็มไปด้วยพละกำลัง เบนที่หย่าจากเมียและใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆ ต้องทำงานด้านรักษาความปลอดภัย เพราะมันเป็นเพียงงานเดียวที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขามีอำนาจสั่งการได้
ตัวละครหลักอีก 3 ตัวที่พยายามจะนำลิฟท์ที่ค้างอยู่กับลงมาอย่างปลอดภัย (รวมไปถึงช่วยคนที่อยู่ข้างในลิฟท์ออกมาด้วย) ได้แก่:
• โบว์เด้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกฆาตกรรม (คริส เมสซิน่า): โบว์เด้น ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูน่าเชื่อถือ ขยันขันแข็ง เขาคือสุดยอดตำรวจ แต่ความเลวร้ายในอดีตและความรู้สึกของเขาที่ต้องการรับผิดชอบต่อทุกชีวิตที่ ต้องตายไปต่อหน้าต่อตา เป็นผลทำให้เขาดื่มเหล้าหนัก ถึงแม้จะอดเหล้ามาได้ 6 เดือนแล้ว แต่โบว์เด้นยังโดนการตายอย่างโหดร้ายของครอบครัวของเขาเมื่อห้าปีก่อนตาม หลอกหลอนอยู่

• รามิเรซ พนักงานรักษาความปลอดภัย (เจค็อบ วาร์กัส): รามิเรซที่เพิ่งย้ายมาและยังเป็นแคธอลิคผู้เคร่งครัด เชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติ และเขาเป็นคนแรกที่รู้สึกได้ถึงความชั่วร้ายที่กำลังเกิดขึ้นภายในตึกที่เขา ดูแลอยู่ เขาพยายามพูดให้คนอื่นๆ เชื่อว่าภาพที่เห็นในกล้องวงจรปิดนั้นไม่ใช่ภาพที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้
• ลัสติก พนักงานรักษาความปลอดภัย (แม็ตต์ เครเว่น): ลัสติก ซึ่งเป็นอดีตนาวิกโยธินที่มีประสบการณ์และมองโลกในแง่ร้าย พบว่าการทำงานดูแลรักษาความปลอดภัยอาคารสำนักงานไม่มีความท้าทายเสียเลย ในฐานะคู่หูของรามิเรซ เขาแค่หวังจะใช้ชีวิตไปวันๆ จนกว่าจะถึงวันเกษียณงาน
ผู้กำกับดาวเดิลพูดถึงนักแสดงห้าคนที่รับบทเป็นตัวละครที่ติดอยู่ในลิฟท์ว่า “โบคีมเป็นดาวรุ่งที่เปล่งรัศมีจริงๆ เขามีบุคลิกที่โดดเด่นมาก เขายอดเยี่ยม เราชอบเขามากในบทพนักงานรักษาความปลอดภัย สำหรับตัวละครช่างเครื่อง เราเจอหลายคนที่เดินเข้ามาอ่านบทนี้อย่างกราดเกรี้ยวดุดัน แต่โลแกน มาร์แชลล์-กรีนเดินเข้ามา และเขาแทบจะพูดเป็นเสียงกระซิบด้วยซ้ำ มันเป็นการพลิกกลับตรงกันข้ามกับทุกอย่างที่เราเคยเห็นมา จนเรารู้ทันทีเลยว่าเขาคือคนที่เหมาะกับบทช่างเครื่อง สำหรับตัวละครของเจฟฟรีย์ เราต้องการใส่อารมณ์ขันลงไปในภาพยนตร์เรื่องนี้บ้าง ก็อย่างที่คุณได้เห็นในภาพยนตร์เรื่อง Super Troopers เจฟฟรีย์ฮามาก เขาได้เพิ่มอารมณ์ขันและความน่าเวทนาลงไปในภาพยนตร์เรื่องนี้”

สำหรับผู้หญิงสองคนที่ติดอยู่ในลิฟท์ร่วมกับช่างเครื่อง, เซลส์แมน และพนักงานรักษาความปลอดภัย ทีมผู้สร้างพบนักแสดงสาวชาวออสเตรเลีย โบจาน่า โนวาโกวิค ที่เคยดูโดดเด่นอย่างมากจากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง Drag Me to Hell และพวกเขายังได้พบนักแสดงหญิงที่มีประสบการณ์อย่าง เจนนี่ โอฮาร่า ด้วย จอห์น ดาวเดิลพูดถึงการตัดสินใจเลือกนักแสดงหญิงสองคนนี้ว่า “โบจาน่าเป็นคนหน้าตาน่ามอง และเธอยังเป็นนักแสดงที่จริงจังและเก่งมาก เธอช่วยดึงอารมณ์มากมายใส่ลงไปในภาพยนตร์เรื่องนี้ ดวงตาของเธอบ่งบอกอะไรได้มากมาย เธอมีบุคลิกที่ดูเร่าร้อน ถึงแม้ส่วนใหญ่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เธอจะนิ่งเงียบอยู่เกือบตลอดเวลาก็ตาม ส่วนเจนนี่ โอฮาร่า เธอเป็นคนสดใสเสมอ การทำงานกับเธอคือความสนุกสนาน เจนนี่มีประสบการณ์แสดงละครเวทีมามากมาย เธอเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”
คริส เมสซิน่าได้รับเลือกให้มารับบทเจ้าหน้าที่โบว์เด้น นายตำรวจฟิลาเดลเฟียที่ถูกเรียกตัวมาเพื่อจัดการกับวิกฤตการณ์ครั้งนี้ เหตุการณ์มากมายในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการถ่ายทอดผ่านมุมมองของเขาภายใน ห้องปฏิบัติการของหน่วยรักษาความปลอดภัย เราติดตามเขาไปขณะที่เขาเฝ้าเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกล้องภายในลิฟท์ ขณะที่โบว์เด้นมองเห็นคนทั้งห้าในลิฟท์ เขากลับไม่ได้ยินเสียงที่พวกนั้นพูด ซึ่งมันตรงกันข้ามกับคนที่ติดอยู่ในลิฟท์ ที่ได้ยินเสียงโบว์เด้น แต่มองไม่เห็นเขา
นักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรงผู้นี้เคยร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังมากมาย ตั้งแต่ วูดี้ อัลเลน จนถึงนอร่า เอฟรอน ชยามาลานได้เล่าถึงการเลือกตัวเมสซิน่ามาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “คริสเดินเข้ามาและให้การแสดงออดิชั่นที่สุดยอดจริงๆ ทุกคนต่างคิดเหมือนกันว่า ‘ผู้ชายคนนี้น่าทึ่งมาก!’ ผมเคยดูเขาในภาพยนตร์เรื่อง Vicky Cristina Barcelona และใน Julie & Julia มาแล้ว และพอผมนั่งลงพูดคุยกับเขา ผมคิดเลยว่า ‘นี่แหละผู้นำตัวจริง’”
ที่เข้ามาร่วมมือกับเมสซิน่า ก็คือ สองพนักงานรักษาความปลอดภัย รามิเรซ และลัสติก ซึ่งรับบทโดย เจค็อบ วาร์กัส และแม็ตต์ เครเว่น ผู้กำกับดาวเดิลให้ความเห็นไว้ว่า “คริส, เจค็อบ และแม็ตต์ยอดเยี่ยมมากเมื่ออยู่ด้วยกัน พวกเขาทั้งสามคนแสดงเข้าขากันอย่างเป็นธรรมชาติ จนสิ่งที่ผมมักต้องทำเสมอเมื่ออยู่ในฉากห้องทำงานของหน่วยรักษาความปลอดภัย ก็คือ หลีกให้พ้นทางพวกเขาซะ พวกเขาสามคนมีสไตล์ที่แตกต่างกัน และมีความแข็งแกร่งในการแสดงเป็นตัวละครของพวกเขา”
พื้นที่คับแคบและผิววัสดุที่สะท้อนภาพ:
งานออกแบบ Devil

ฤดูใบไม้ร่วงของปี 2009 คือช่วงเวลาที่ภาพยนตร์เรื่อง Devil เริ่มต้นการถ่ายทำ และโรงถ่ายที่ 4 ที่ไพน์วู้ด โตรอนโต้ สตูดิโอส์ก็คือโลเกชั่นที่ลงตัวเหมาะเจาะที่สุด ที่นี่มีพื้นที่ให้ทีมผู้สร้างได้สร้างฉากที่บทภาพยนตร์ได้บรรยายเอาไว้ ทุกอย่าง จอห์น ดาวเดิลพูดถึงความท้าทายที่พวกเขาต้องเผชิญว่า “เรามีตัวละครห้าตัวอยู่ในลิฟท์ และหนึ่งในกฎของงานสร้างภาพยนตร์มีอยู่ว่า ยิ่งฉากเล็กเท่าไหร่ งานก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น”
นี่คือภาพยนตร์ของ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน ที่ไม่ได้ถ่ายทำในฟิลาเดลเฟียงั้นหรือ? เรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว และนี่ก็คือคำอธิบาที่ชยามาลานมีต่อประเด็นนี้ “โตรอนโต้เป็นเมืองที่มีความพิเศษสำหรับผม เพราะมันคือเมืองแรกที่ผมนำภาพยนตร์เรื่องแรกของผมไปเปิดตัวฉาย ตอนนั้นผมอายุ 21 ปี ผมสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่งในอินเดียทั้งๆ ที่ผมก็ไม่มีเงินทุน ผมเพิ่งสร้างภาพยนตร์เรื่องนั้นเสร็จ และส่งมันเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต้ พวกเขาตอบรับ และนำมันไปฉายในงานเทศกาลของพวกเขา ผมจำได้ว่าผมบินไปโตรอนโต้ตอนผมอายุ 21 และรู้สึกว่ามันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเห็น การได้กลับมาและสร้างภาพยนตร์เรื่องแรกในชุด Night Chronicles ที่นี่มันช่างงดงามน่าซาบซึ้งจริงๆ”

การสร้างลิฟท์ให้กับภาพยนตร์เรื่อง Devil ต้องใช้ลูกเล่นเยอะมาก เพราะเรื่องราวสุดตื่นเต้นเหนือธรรมชาติมากมายเกิดขึ้นภายในพื้นที่แคบๆ เล็กๆ แห่งนี้ ฉากลิฟท์จึงต้องดูสมจริง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเป็นพื้นที่ที่คนดูสามารถประสบกับสิ่งที่พวกเขาหวาด กลัวที่สุด พี่น้องดาวเดิลยกความดีความชอบให้กับ มาร์ติน วีสท์ โปรดักชั่นดีไซเนอร์ที่เคยออกแบบฉากให้กับภาพยนตร์เรื่อง Cloverfield มาแล้ว วีสท์กับลูกทีมสามารถสร้างสมดุลที่ลงตัวให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันสำหรับทีมผู้สร้างที่จะต้องให้ตัวละครแต่ละตัวมีฉาก เด่นภายในลิฟท์ ซึ่งเป็นการบอกเล่าจากมุมมองของเขาหรือเธอ
ผู้กำกับดาวเดิลอธิบายว่า “ลิฟท์นี้คือฉากที่ปรับได้ ขณะที่เราถ่ายทำ เราจะดึงกำแพงดานซ้ายออก จากนั้นก็ดึงกำแพงด้านขวาออก เราสามารถทะลุผ่านเพดาน ยกหลังคาขึ้นไปได้ กระจกก็ขยับปรับเปลี่ยนที่ได้เช่นกัน เพื่อให้สามารถหลบมุมกล้องที่จะเห็นภาพพวกเราออกจากภาพชอตนั้นหรือให้เห็นคน อยู่ในชอต มันเป็นฉากขนาดยักษ์ที่พิเศษสุดจริงๆ”
ดรูว์ ดาวเดิลอธิบายถึงการสร้างฉากลิฟท์ที่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ตัวละคร ทั้งห้าว่า “สำคัญมากเลยนะที่ต้องทำให้เกิดความรู้สึกกลัวที่คับแคบ ซึ่งความรู้สึกนี้จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไป ดังนั้นเราจึงอยากได้ลิฟท์ที่เล็กที่สุดเท่าที่จะมีได้ โดยจะต้องคงลักษณะตามความเป็นจริงเอาไว้ด้วย เป็นการสร้างมิติที่เข้ากันกับตัวละคร ตัวอย่างเช่น ช่างซ่อมเอื้อมมือขึ้นไปและย้ายแผงบนเพดานออกในฉากสำคัญ คล้ายๆ กับตอนที่เซลส์แมนนอนไปบนพื้น เป็นเรื่องสำคัญที่เขาจะต้องสัมผัสกำแพงได้สุดทั้งสองด้าน”
องค์ประกอบด้านงานโปรดักชั่นดีไซน์ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ การตัดสินใจสร้างลิฟท์ให้มีแนวลึก แทนที่จะมีแนวกว้างเหมือนกับลิฟท์ส่วนใหญ่ ซึ่งให้ผลกระทบอย่างที่ต้องการได้ ยิ่งคนห้าคนที่ติดอยู่ในลิฟท์ (รวมถึงคนดูด้วย) ถอยออกห่างจากประตูลิฟท์ได้มากเท่าไหร่ ทุกคนก็จะยิ่งรู้สึกเหมือนโดนฝังทั้งเป็นมากขึ้น จอห์น ดาวเดิลยืนยันว่า “เชื่อผมเถอะ คุณจะยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นเมื่อคุณเข้าไปอยู่ตรงมุมด้านหลังนั่น”
ขณะที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากอยู่เพียงไม่กี่ฉาก แต่ฉากเหล่านี้ต้องถูกสร้างออกมาให้ไม่มีที่ติมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากลิฟท์และห้องควบคุม ผู้อำนวยการสร้าง แซม เมอร์เซอร์ เล่าว่า “ฉากพวกนี้เป็นฉากที่สร้างได้ยากมาก เราต้องทำให้ลิฟท์นั้นดูคุ้นตา ต้องมืดพอเมื่อถึงเวลาที่ต้องทำให้มันดูน่ากลัว ขณะเดียวกัน เราไม่อยากออกแบบลิฟท์ให้ดูเว่อร์หรือดูน้อยเกินไป เพื่อทำให้เกิดความรู้สึกน่ารำคาญหรือทำให้รู้สึกว้าวุ่นสับสน จากนั้นคุณก็จะได้เห็นโลกที่มองผ่านสายตาของตัวละครของ คริส เมสซิน่า ในห้องควบคุม”

“การคิดหาหนทางว่าจะสร้างฉากนั้นขึ้นมายังไง และกล้องจะวางเอาไว้ตรงไหน จะจับภาพจากมุมกล้องไหน นั่นคืองานที่ท้าทายอย่างมาก” เมอร์เซอร์อธิบายต่อ “คุณอยากให้คนดูสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของการเข้าไปติดอยู่ในนั้น เกิดความหวาดกลัว คุณไม่อยากลงเอยด้วยการใส่มุมกล้องที่แตกต่างกันมากเกินไปจนทำให้ภาพออกมาดู เนี๊ยบเกินไป”
โชคดีสำหรับทีมผู้สร้างที่ทีมนักแสดงของพวกเขาสามารถปรับตัวได้ ดีพอๆ กับฉากลิฟท์ที่ถูกสร้างขึ้น ก่อนการถ่ายทำ พี่น้องดาวเดิลได้ขอให้เหล่านักแสดงมายืนอยู่หน้าลิฟท์เพื่อลองเสื้อผ้า ทำผม แต่งหน้า ซึ่งเป็นฝีมือของผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เอริน บีแนช, ช่างออกแบบทรงผม คาโรล่า เดิร์นเบนเกอร์ และหัวหน้าทีมเม้คอัพ อาร์ตติสต์ คริสติน ฮาร์ต ดรูว์ ดาวเดิลเล่าว่า “เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องได้เห็นองค์ประกอบทุกอย่างถูกรวมเข้าด้วยกัน เพื่อให้แน่ใจว่ามันเข้ากันได้ดีเป็นหนึ่งเดียว เราไม่อยากให้ตัวละครโดนกลืนไปกับกำแพงลิฟท์มากเกินไป และ ไม่อยากให้พวกเขาดูโดดออกมามากเกินไปเช่นกัน”
เพื่อให้เกิดความรู้สึกกลัวที่แคบและเกิดอารมณ์สยองขึ้นมาได้ ทุกครั้งที่มีการออกแบบฉากในลิฟท์ นักแสดงทั้งห้าคนจะต้องมาอยู่ที่ฉากด้วย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงการถ่ายทำของนักแสดงคนเดียวเท่านั้น เพื่อให้พวกเขารู้สึกได้ถึงการมีตัวตนอยู่ของแต่ละคนอย่างต่อเนื่อง
แม้แต่ คริส เมสซิน่า ที่ไม่ได้เข้าไปติดอยู่ในลิฟท์ ก็ต้องมาอยู่ที่กองถ่ายด้วยในทุกครั้งที่มีการถ่ายทำฉากในลิฟท์ เขาอธิบายถึงความจำเป็นนั้นว่า “เพราะคนในลิฟท์สามารถได้ยินเสียงผมจากห้องปฏิบัติการของหน่วยรักษาความ ปลอดภัย พี่น้องดาวเดิลกับผมเลยคิดกันว่ามันน่าจะช่วยเพิ่มความสมจริงที่ผมจะต้องไป อยู่ที่นั่นและเป็นคนอ่านบทพูดในส่วนของผมออกมาเอง จากนั้น เมื่อถึงเวลาถ่ายทำฉากของผมบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นการถ่ายทำในฉากห้องทำงานของหน่วยรักษาความปลอดภัย เราก็จะสามารถตอบโต้กับภาพฟุตเตทที่ได้จากฉากในลิฟท์จริงๆ มันให้ความรู้สึกฉับพลันทันใดและเหมือนจริงอย่างมาก”
ดรูว์ ดาวเดิลกล่าวต่อว่า “เมื่อมีคนตาย ที่นั่นจะกลายเป็นที่ที่มีเนื้อที่น้อยลง คุณจะเกิดความรู้สึกเหมือนกำแพงถูกบีบเข้ามาใกล้มากขึ้น พื้นที่ในลิฟท์เริ่มเล็กลงๆ มันเริ่มบีบแคบ ราวกับน้ำไหลทะลักเข้ามาและทำให้คุณกำลังจมน้ำ”
ผู้กำกับภาพที่เป็นตำนาน ทัก ฟูจิโมโต้ ซึ่งเคยร่วมงานกับชยามาลานเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ต้องขอให้ทีมกล้องสวมเสื้อกราวน์สีขาวแบบพวกนักวิทยาศาสตร์ทั้งนี้เพื่อ ป้องกันการสะท้อนแสง ภาพที่เห็นในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้จึงกลายเป็นภาพที่แปลกประหลาดมาก แต่ จอห์น ดาวเดิล อธิบายว่า “ถ้าทีมงานของเราสวมใส่เสื้อผ้าสีดำอย่างที่พวกเขามักจะใส่กันในกองถ่าย กำแพงกระจกของลิฟท์อาจเกิดอาการดูดแสง แต่เสื้อกราวน์สีขาวช่วยรักษาแสงให้ดูมีชีวิตชีวาด้วยการทำหน้าที่เป็น เหมือนแผ่นสะท้อนที่ช่วยให้แสงกับนักแสดงได้ดีขึ้น ไม่สะดุดตาพวกเขาจนทำให้เสียสมาธิ และส่งผลต่ออารมณ์ที่เกิดขึ้น”
ดรูว์ ดาวเดิลมีความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานกับผู้กำกับภาพ ฟูจิโมโต้ ไม่แพ้พี่ชายของเขาเลย “เขาน่าทึ่งมาก มันคือฝันที่กลายเป็นจริงที่ได้มาทำงานกับผู้กำกับภาพที่ผู้คนยกย่องชื่นชม อย่างเขา เป็นคนที่เคยถ่ายทำภาพยนตร์ที่เป็นตำนานหลายเรื่อง เป็นคนที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาดูดีกว่าที่ผมคาดหวังเอาไว้เสียอีก”
คนดูที่นั่งดูภาพยนตร์เรื่อง Devil อยู่นั้น จะได้พบกับการผจญภัยที่แสนตื่นเต้นที่มาพร้อมเรื่องราวที่ชวนติดตาม ซึ่งพูดถึงการรู้จักรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง มันคือแนวคิดที่ทีมนักแสดงและทีมงานคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลา พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเก็บเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้เป็นความ ลับระหว่างการถ่ายทำ อันที่จริง มีทีมงานและทีมนักแสดงหลายคนทีเดียวที่ไม่ยอมอ่านตอนจบของบทภาพยนตร์เรื่อง นี้จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย แน่นอน พวกเขาอาจได้เห็นข้าวของประหลาดแว่บๆ เมื่อมีการขนศพจำลองของนักแสดงที่ทำได้เหมือนมากผ่านหน้าไป ศพเหล่านี้เป็นฝีมือของ โรเบิร์ต ฮอลล์ จากบริษัทออลโมสท์ ฮิวแมน ซึ่งเป็นผู้ดูแลงานเม้คอัพ เอฟเฟ็กต์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ คงไม่จำเป็นต้องบอกว่าจนถึงทุกวันนี้ ทีมงานส่วนใหญ่ยังคงเลี่ยงที่จะใช้ลิฟท์…เพราะพวกเขาอยากยืนอยู่ในฝั่งที่ ปลอดภัยมากกว่า
****
ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส และมีเดียว ไรท์ส แค็ปปิตอล ภูมิใจเสนอภาพยนตร์เรื่อง Devil ซึ่งนำแสดงโดย คริส เมสซิน่า, โลแกน มาร์แชลล์-กรีน, เจฟฟรีย์ อาเรนด์, โจจาน่า โนวาโกวิค, เจนนี่ โอฮาร่า, โบคีม วู้ดไบน์, เจค็อบ วาร์กัส โดยมี เดบร้า เซน, ซีเอสเอ เป็นผู้ทำหน้าที่คัดเลือกตัวนักแสดง, ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายได้แก่ เอริน บีแนช, ผู้อำนวยการสร้างร่วมของภาพยนตร์เรื่อง Devil ได้แก่ แอชวิน ราจาน, จอห์น รัสก์, ดนตรีประกอบเป็นฝีมือของ เฟอร์นันโด เวลาซเควซ, ผู้ลำดับภาพ ได้แก่ เอลเลียต กรีนเบิร์ก, โปรดักชั่น ดีไซเนอร์ ได้แก่ มาร์ติน วีสท์, ผู้กำกับภาพ ได้แก่ ทัก ฟูจิโมโต้, เอเอสซี และทีมผู้อำนวยการสร้างบริหาร ประกอบไปด้วย ดรูว์ ดาวเดิล และทริช ฮอฟแมนน์, ทีมผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์เรื่อง Devil ได้แก่ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน และแซม เมอร์เซอร์ ภาพยนตร์ทริลเลอร์เหนือธรรมชาติเรื่องนี้สร้างจากเรื่องที่ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน เป็นผู้คิดสร้างขึ้น และบทภาพยนตร์เป็นฝีมือของ ไบรอัน เนลสัน Devil กำกับโดย จอห์น เอริค ดาวเดิล © 2010 Universal Studios www.thenightchronicles.com/devil

ประวัตินักแสดง
คริส เมสซิน่า (CHRIS MESSINA) รับบทเจ้าหน้าที่โบว์เด้น
เมื่อไม่นานมานี้ คริส เมสซิน่า ขึ้นจอประกบบทกับ เอมี่ อดัมส์ ในภาพยนตร์ของนอร่า เอฟรอน เรื่อง Julie & Julia เมสซิน่าซึ่งเป็นชาวนิวยอร์กเพิ่งจะร่วมแสดงในภาพยนตร์ของ แซม เมนเดส เรื่อง Away We Go และยังร่วมแสดงในภาพยนตร์อินดี้ของ จอห์น คราซินสกี้ เรื่อง Brief Interviews With Hideous Men ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเมสซิน่า ได้แก่ Greenberg ซึ่งเขาแสดงนำร่วมกับ เบน สติลเลอร์, ภาพยนตร์ของ วูดี้ อัลเลน เรื่อง Vicky Cristina Barcelona ซึ่งเขาร่วมแสดงกับ รีเบ็คก้า ฮอลล์ และนักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์ เพเนโลปี้ ครูซ, ภาพยนตร์ของ โรเบิร์ต แครี่ เรื่อง Ira & Abby, ภาพยนตร์ของพอล ไวแลนด์ เรื่อง Made of Honor, ภาพยนตร์ของดาร์เรน กร็อดสกี้ และแดนนี่ เจค็อบส์ เรื่อง Humboldt County, ภาพยนตร์ที่สร้างสำหรับฉายทางทีวีของเจเจ อับรามส์ ที่กำลังจะออกอากาศในเร็วๆ นี้ เรื่อง Anatomy of Hope และภาพยนตร์ของ อลัน บอลล์ เรื่อง Towelhead เมสซิน่าได้ร่วมงานกับ อลัน บอลล์ ครั้งแรกโดยรับบทรับเชิญในซีรีส์ที่ได้รับคำชม เรื่อง Six Feet Under

เมสซิน่าจะมีผลงานเรื่องต่อไป เป็นภาพยนตร์ของ ดาน่า อดัม ชาปิโร่ เรื่อง Monogamy ซึ่งเขาประกบบทกับ ราชิด้า โจนส์ และภาพยนตร์ของ มาริลิน แอ็กกรีโล่ เรื่อง An Invisible Sign ซึ่งเขาจะได้ประกบบทกับ เจสซิก้า อัลบ้า
โลแกน มาร์แชลล์-กรีน (LOGAN MARSHALL-GREEN) รับบทช่างเครื่อง
โลแกน มาร์แชลล์-กรีนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีในหมู่คนดู จากการรับบทเป็น นักรณรงค์หัวรุนแรงที่ชื่อ พาโค่ ในภาพยนตร์ของ จูลี่ เทย์มอร์ เรื่อง Across the Universe เขายังร่วมแสดงในภาพยนตร์ของอังตวน ฟูควา เรื่อง Brooklyn’s Finest, The Kindness of Strangers และ The Great Raid

เจฟฟรีย์ อาเรนด์ (GEOFFREY AREND) รับบทเซลส์แมน
เจฟฟรีย์ อาเรนด์สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนดนตรีและศิลปะและศิลปะการแสดง New York City’s LaGuardia High School of Music & Art and Performing Arts ในปี 1996 และไปศึกษาต่อด้านการละครและการแสดงที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้ เมลลอน
บทบาทการแสดงแรกของเขาคือการรับบทเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยในภาพยนตร์คัล ท์แนวตลกปี 2001 เรื่อง Super Troopers นับแต่นั้นเป็นต้นมา อาเรนด์มีผลงานอย่างต่อเนื่องทั้งในแวดวงทีวี, ละครเวที และภาพยนตร์ ผลงานภาพยนตร์เมื่อเร็วๆ นี้ของเขา ได้แก่ ภาพยนตร์ของเดวิด ซัคเกอร์ เรื่อง An American Carol, เขายังรับบทนำร่วมกับ โจเซฟ กอร์ดอน-ลิววิตต์ และซูอี้ เดสชาเนล ในภาพยนตร์เรื่อง (500) Days of Summer และร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Garden State และ The Ringer

โบจาน่า โนวาโกวิค (BOJANA NOVAKOVIC) รับบทหญิงสาว
โบจาน่า โนวาโกวิคเกิดในปี 1981 ที่เซอร์เบีย เธอกับครอบครัวย้ายมาอยู่ออสเตรเลียตอนที่เธออายุ 7 ปี เธอเริ่มต้นการแสดงตอนอายุ 12 ปี และได้รับเลือกให้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องแรกตอนอายุ 15 ปี ในภาพยนตร์เรื่อง Blackrock
ในปี 2004 โนวาโกวิคได้รับรางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยมจากผลงานทางทีวีแนวดราม่าหรือตลก จากสถาบันภาพยนตร์ออสเตรเลี่ยน จากผลงานเรื่อง Marking Time

เมื่อไม่นานมานี้ โนวาโกวิคร่วมแสดงกับเมล กิ๊บสัน ในภาพยนตร์ผลงานการกำกับของ มาร์ติน แคมป์เบลล์ เรื่อง Edge of Darkness เธอยังแสดงนำในภาพยนตร์ของผู้กำกับ แซม เมนเดส เรื่อง Drag Me to Hell, ร่วมแสดงในภาพยนตร์อินดี้คว้ารางวัลเรื่อง The Optimists, ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Monkey’s Mask; Strange Fits of Passion และ Solo เธอยังแสดงนำในภาพยนตร์อินดี้ของออสเตรเลียเรื่อง Thunderstruck ซึ่งวอร์เนอร์ บราเธอร์ส โฮม วิดีโอ เป็นผู้จัดจำหน่าย เมื่อเร็วๆ นี้ โนวาโกวิคเพิ่งจะเสร็จจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Burning Man ซึ่งเธอร่วมแสดงกับ แมทธิว กู้ด ภายใต้การกำกับของ โจนาธาน เทพลิทซ์กี้
เจนนี่ โอฮาร่า (JENNY O’HARA) รับบทหญิงชรา
เจนนี่ โอฮาร่าคือนักแสดงที่มีประสบการณ์ในการแสดงละครเวทีมาอย่างโชกโชน นอกจากนี้ เธอยังมีผลงานภาพยนตร์ทั้งทางจอแก้วและจอเงินมากมาย ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านๆ มาของเธอ ได้แก่ Career Opportunities, Angie, Wishmaster, Mystic River, Matchstick Men, Forty Shades of Blue, Two Weeks, Hit List และ Extract

ส่วนผลงานทางทีวีของเธอ ได้แก่การร่วมแสดงในซีรีส์ดังๆ อย่าง The Facts of Life, My Sister Sam, Law & Order, Beverly Hills, 90210, NYPD Blue, ER, House M.D., Reba, The Closer, Nip/Tuck, CSI: Crime Scene Investigation, Cold Case, Six Feet Under, Grey’s Anatomy, Big Love, Drop Dead Diva และ The King of Queens
โบคีม วู้ดไบน์ (BOKEEM WOODBINE) รับบทพนักงานรักษาความปลอดภัย
โบคีม วู้ดไบน์เติบโตในฮาร์เล็ม เขาเริ่มประเดิมงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกตอนอายุ 20 ปี ในผลงานการกำกับเรื่องแรกของ ฟอเรสต์ วิเทเกอร์ เรื่อง Strapped นับแต่นั้นเป็นต้นมา วู้ดไบน์ก็มีผลงานภาพยนตร์ออกมาอย่างต่อเนื่องและหลากหลาย

เขาเคยร่วมงานกับผู้กำกับที่มีชื่อเสียงมาแล้วหลายคน อาทิเช่น ไมเคิล เบย์, พี่น้องฮิวจ์ส, เท็ด เด็มมี่ และเทย์เลอร์ แฮ็คฟอร์ด เขาเคยร่วมแสดงในภาพยนตร์แนวดราม่าหลายเรื่องด้วยกัน อาทิเช่น Ray, Edmond, The Poker House, Mario Van Peebles’ Panther, Jason’s Lyric, ภาพยนตร์ของแมทธิว ไบรท์ เรื่อง Freeway ซึ่งเขาร่วมแสดงกับ คีเฟอร์ ซุทเธอร์แลนด์ และรีส วิเธอร์สปูน และภาพยนตร์ของสไปก์ ลี เรื่อง Crooklyn
เจค็อบ วาร์กัส (JACOB VARGAS) รับบท รามิเรซ
เจค็อบ วาร์กัสเริ่มงานแสดงด้วยการรับบทเล็กๆเป็นนักเต้นเบรกแดนซ์ ในผลงานทางทีวียอดฮิตอย่าง Diff’rent Strokes นับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาได้สร้างประวัติผลงานอันน่าประทับใจทั้งในบทแนวตลกและแนวดราม่า ในปี 1995 เขาได้รับรางวัล ALMA (รางวัลศิลปินแจ้งเกิดแห่งปี) ตัวแรกจากผลงานภาพยนตร์ของ อัลลิสัน แอนเดอร์ส เรื่อง Mi vida loca และภาพยนตร์ของเกรกอรี่ นาวา เรื่อง My Family

ต่อมา เขาได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์มากมายหลายเรื่องด้วยกัน อาทิเช่น Selena, Get Shorty, American Me, Romy and Michele’s High School Reunion และภาพยนตร์คัลท์ยอดนิยมอย่าง Next Friday โดยเขารับบทเป็น โจ๊กเกอร์ คู่ปรับของไอซ์ คู้บ ต่อมา เขาฉายแววด้วยการรับบท มาโนโล่ คู่หูของ เบนิซิโอ เดล โทโร่ ในภาพยนตร์รางวัลออสการ์ของสตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก เรื่อง Traffic ซึ่งทำให้เขาคว้ารางวัลจากสมาคมนักแสดง และรางวัล ALMA
วาร์กัสยังทำให้คนดูหัวเราะงอหายมาแล้ว จากการรับบท แซมมี่ พ่อครัวในภาพยนตร์ของ จอห์น มัวร์ เรื่อง Flight of the Phoenix, รับบทเป็น ฮวน คอร์เตซ ในภาพยนตร์ดราม่าเกี่ยวกับสงครามของผู้กำกับ แซม เมนเดส เรื่อง Jarhead และเป็นหนึ่งในกลุ่มนักแสดงชื่อดังในภาพยนตร์ดราม่าแนวประวัติศาสตร์ของ เอมิลิโอ เอสเตเวซ เรื่อง Bobby
ประวัติทีมผู้สร้าง
จอห์น เอริค ดาวเดิล (JOHN ERICK DOWDLE) – ผู้กำกับ
ก่อนหน้านี้ จอห์น เอริค ดาวเดิลก็คือผู้เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ทริลเลอร์เรื่อง Quarantine และภาพยนตร์อินดี้แนวสยองขวัญเรื่อง The Poughkeepsie Tapes ซึ่งไปเปิดตัวฉายรอบปฐมทัศน์โลกที่งานเทศกาลภาพยนตร์ไทร์บีก้า ในเดือนพฤษภาคม ปี 2007 และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำยอดขายสูงสุดเท่าที่เคยมีมาของเทศกาลนั้น

ดาวเดิลยังเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ตลกอินดี้เล็กๆ เรื่อง The Dry Spell ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวฉายที่งานเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ และคว้ารางวัล Jury Award สาขาการแสดงยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grand Jury Prize ด้วย
ไบรอัน เนลสัน (BRIAN NELSON) – ผู้เขียนบท
ไบรอัน เนลสันคือผู้เขียนบทให้กับภาพยนตร์เรื่อง 30 Days of Night และ Hard Candy ซึ่งเรื่องหลังนี้ถือเป็นผลงานเรื่องแรกที่เขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับ เดวิด สเลด Hard Candy คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และรางวัล Audience Award ที่งานเทศกาลภาพยนตร์ Sitges International Fantastic Film Festival of Catalonia รวมไปถึงยังคว้ารางวัลอีกมากมายทั่วโลก

ผลงานการเขียนบทเรื่องอื่นๆ ของเนลสัน ได้แก่ บทละครเรื่อง Consolation, Raidant เขายังเขียนบทให้กับมินิซีรีส์ของ ABC เรื่อง 20,000 Leagues Under the Sea ซึ่งนำแสดงโดย ไมเคิล เคน และแพทริค เด็มป์ซีย์ รวมไปถึงการเขียนบทให้กับหลายตอนของซีรีส์เรื่องดังอย่าง Lois & Clark: The New Adventures of Superman, JAG และผลงานของดิสนีย์ แชนแนล เรื่อง So Weird
เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน (M. NIGHT SHYAMALAN) – ผู้คิดสร้างสรรค์เรื่อง/ ผู้อำนวยการสร้าง
เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน ซึ่ง มีชื่อเต็มๆ ว่า มาโนจ เนลลิยัทตุ ชยามาลาน เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1970 ที่ประเทศอินเดีย เขาคือผู้กำกับ, มือเขียนบท และผู้อำนวยการสร้างที่ยังคงดึงดูดความสนใจของคนดูได้อย่างต่อเนื่องด้วย สไตล์การสร้างภาพยนตร์ที่แหวกแนวของเขา เอกลักษณ์ของผลงานภาพยนตร์ของชยามาลานก็คือการทำให้คนดูลุ้นจนตัวโก่ง มีจุดหักมุมที่คาดไม่ถึง มีธีมเขย่าขวัญหรือแนววิทยาศาสตร์ที่สมจริง มีการนำเสนอภาพในมุมที่โดดเด่น และในภาพยนตร์แต่ละเรื่องที่เขากำกับนั้น ชยามาลานมักปรากฏตัวร่วมแสดงอยู่ด้วยเสมอในบทรับเชิญ

ผลงานความสำเร็จเมื่อเร็วๆ นี้ของชยามาลาน ก็คือภาพยนตร์ 3-D สำหรับครอบครัวเรื่อง The Last Airbender ซึ่งเปิดตัวฉายในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาโดยพาราเม้าต์ พิคเจอร์ส โดยชยามาลานทั้งเขียนบท, กำกับ และอำนวยการสร้าง ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Avatar: The Last Airbender ที่ออกอากาศทางช่องนิคเคโลเดี้ยน
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน ปี 2008 ทางทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ ได้เปิดตัวภาพยนตร์ของชยามาลานเรื่อง The Happening ซึ่งนำแสดงโดย มาร์ก วอห์ลเบิร์ก และซูอี้ เดสชาเนล ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของครูโรงเรียนมัธยมที่สอนวิชาวิทยา ศาสตร์, ภรรยาของเขา และเด็กหญิงคนหนึ่งที่ถูกบีบให้ต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากสารพิษลึกลับที่เป็น เหตุให้คนฆ่าตัวตาย
ในปี 2006 วอร์เนอร์ บราเธอร์สเปิดตัวฉายภาพยนตร์ Lady in the Water โดยภาพยนตร์แนวแฟนตาซีเรื่องนี้เป็นการติดตามเรื่องราวของคลีฟแลนด์ ฮีพ (พอล เจียแม็ตติ) ชายผู้ทำหน้าที่ดูแลอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งในฟิลาเดลเฟีย ผู้พบตัวหญิงสาวที่ชื่อว่าสตอรี่ (ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด) ในสระว่ายน้ำ ต่อมา เขากับบรรดาเพื่อนบ้านต่างได้รู้ว่าเธอคือนางไม้น้ำที่มายังโลกมนุษย์เพื่อ นำแรงบันดาลใจมามอบให้กับคนๆ หนึ่งที่อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นต์แห่งนี้
ในปี 2004 ชยามาลานกลับมาร่วมงานกับวาคิน ฟีนิกซ์ ในภาพยนตร์เรื่อง The Village ภาพยนตร์ดราม่าเรื่องนี้ยังนำแสดงโดยนักแสดงสุดยอดฝีมืออย่าง วิลเลี่ยม เฮิร์ต, ซีกอร์นี่ย์ วีเวอร์, ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด และเอเดรียน โบรดี้ โดยบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนเล็กๆ ในศตวรรษที่ 19 ที่อยู่ในความดูแลของเหล่าผู้อาวุโสที่ปลีกตัวออกมาสร้างสังคมที่ตัดขาดจาก โลกภายนอก หมู่บ้านแห่งนี้รายล้อมไปด้วยป่าที่มีเรื่องเล่าขานว่าเป็นที่อยู่ของสิ่งมี ชีวิตที่ลึกลับและน่ากลัว The Village ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม
ในปี 2002 ชยามาลานประสบความสำเร็จไปทั่วโลกกับภาพยนตร์ทริลเลอร์เหนือธรรมชาติเรื่อง Signs ซึ่งนำแสดงโดย เมล กิ๊บสัน และวาคิน ฟีนิกซ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการติดตามเรื่องการผจญภัยของบาทหลวงที่หมดสิ้นศรัทธา หลังจากที่ภรรยาของเขาเสียชีวิตไป และเขาต้องกลับมายึดมั่นต่อศรัทธาอีกครั้งเมื่อเขากับครอบครัวต้องมาเป็น พยานรู้เห็นเหตุการณ์มนุษย์ต่างดาวบุกโลก
ในปี 2000 ชยามาลานได้ร่วมงานกับ บรูซ วิลลิส อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Unbreakable ซึ่งวิลลิสร่วมแสดงกับ ซามวล แอล แจ็คสัน Unbreakable คือภาพยนตร์ดราม่าซูเปอร์ฮีโร่ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ เดวิด ดันน์ ผู้รอดชีวิตจากหายนะที่เกิดขึ้นกับรถไฟใต้ดิน และการเผชิญหน้าระหว่างเขากับ เอไลจาห์ ไพรซ์ นักสะสมหนังสือการ์ตูน ผู้เชื่อว่าดันน์มีพลังพิเศษ
ในปี 1999 ภาพยนตร์เรื่อง The Sixth Sense ได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังให้กับชยามาลาน จนเขากลายเป็นผู้กำกับหนุ่มที่มีคนต้องการตัวมากที่สุดในฮอลลีวู้ด The Sixth Sense กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุงตลอดกาล และยังทำลายสถิติอีกหลายอย่างในแวดวงความบันเทิงในบ้าน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 6 สาขา ซึ่งรวมถึงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย โดยตัวชยามาลานเองได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาผู้กำกับยอด เยี่ยมและบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
ในปี 1997 ภาพยนตร์เรื่อง Wide Awake ซึ่งนำแสดงโดย โรซี่ โอดอนเนลล์, เดนิส เลียรี่, ดาน่า เดลานี่ย์ และโรเบิร์ต ล็อกเกีย เปิดตัวแย ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำกันทั้งเรื่องในฟิลาเดลเฟีย โดยบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างเด็กชายแคธอลิคกับปู่ของ เขา
ในปี 1994 ชยามาลานเขียนบทให้กับภาพยนตร์เรื่อง Labor of Love ซึ่งเขาได้ขายให้กับทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ และในเดือนมิถุนายน ปี 1995 ทางโคลัมเบีย พิคเจอร์ส ได้ทาบทามให้เขาเข้ามาเขียนบทให้กับภาพยนตร์แนวแฟนตาซีเรื่อง Stuart Little ซึ่งสร้างจากหนังสือคลาสสิกสำหรับเด็กๆ ของอีบี ไวท์ ที่มีชื่อเรื่องเดียวกัน

แซม เมอร์เซอร์ (SAM MERCER) – ผู้อำนวยการสร้าง
Devil คือภาพยนตร์เรื่องที่ 8 ที่ แซม เมอร์เซอร์ ได้ร่วมงานกับ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน โดยก่อนหน้านี้พวกเขาเคยร่วมงานด้วยกันมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง The Sixth Sense, Unbreakable, Signs, The Village, Lady in the Water, The Happening และ The Last Airbender
ผลงานการอำนวยการสร้างเรื่องอื่นๆ ของเมอร์เซอร์ ได้แก่ ภาพยนตร์ของ แซม เมนเดส เรื่อง Jarhead, ภาพยนตร์ของสตีเฟ่น ซอมเมอร์ส เรื่อง Van Helsing และภาพยนตร์ของซูซานน์ เบียร์ เรื่อง Things We Lost in the Fire ซึ่งนำแสดงโดย ฮัลลี่ เบอร์รี่ และเบเนซิโอ เดล โทโร่
เมอร์เซอร์เริ่มต้นเข้าวงการด้วยการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองถ่ายอิสระให้ กับภาพยนตร์อย่าง The Witches of Eastwick, Peggy Sue Got Married, Stripes, Swing Shift และ The Escape Artist เขายังทำหน้าที่เป็นแอสโซซิเอท โปรดิวเซอร์และผู้จัดการกองถ่ายย่อยให้กับ KCET-TV ในลอสแอนเจลิส ต่อมา เขาได้ร่วมงานกับวอลท์ ดิสนีย์ คัมปานี ในตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายโปรดักชั่น โดยเขาได้ดูแลงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง Good Morning, Vietnam, Three Fugitives และ Dead Poets Society ภายในเวลาไม่กี่ปี เมอร์เซอร์ได้ก้าวขึ้นเป็นรองประธานฝ่ายโปรดักชั่นให้กับฮอลลีวู้ด พิคเจอร์ส ที่ซึ่งเขาได้รับผิดชอบงานสร้างของภาพยนตร์อย่างเรื่อง Quiz Show, The Joy Luck Club, Born Yesterday, Swing Kids, The Hand That Rocks the Cradle และ Arachnophobia

เมอร์เซอร์เริ่มประเดิมงานในฐานะผู้อำนวยการสร้างอิสระเป็นครั้ง แรกด้วยภาพยนตร์โกยเงินเรื่อง Congo ซึ่งกำกับโดยแฟรงก์ มาร์แชลล์ โดยเมอร์เซอร์ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างร่วมกับ แคธลีน เคนเนดี้ ซึ่งเป็นคนที่เขาได้ร่วมงานด้วยอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง The Last Airbender ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขา ได้แก่ ภาพยนตร์ของปีเตอร์ ไฮแอมส์ เรื่อง The Relic เมอร์เซอร์ยังเป็นผู้อำนวยการสร้างบริหารให้กับภาพยนตร์ของ ไบรอัน เดอ พัลม่า เรื่อง Mission to Mars
ทริช ฮอฟแมนน์ (TRISH HOFMANN) – ผู้อำนวยการสร้างบริหาร
ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ทริช ฮอฟแมนทำหน้าที่อำนวยการสร้างให้กับทั้งภาพยนตร์อินดี้และภาพยนตร์จาก สตูดิโอ โดยเธอเคยร่วมงานกับผู้กำกับที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิเช่น เทอร์เรนซ์ มาลิค, เจย์ โร้ช, เบน สติลเลอร์ และเอมี่ เฮ็คเกอร์ลิ่ง ผลงานระดับคว้ารางวัลของฮอฟแมนน์ ได้แก่ Notorious, The Ruins, Charlie Bartlett, The New World, Dirty Dancing: Havana Nights, Brown Sugar, Igby Goes Down, The Grey Zone, Down to You และ Three Seasons

ปัจจุบัน เธออยู่ระหว่างทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์เรื่อง Hemingway & Gellhorn ให้กับ HBO โดยมี ฟิลิป คอฟแมน เป็นผู้กำกับ ภาพยนตร์ดราม่าเรื่องนี้นำแสดงโดย ไคลฟ์ โอเว่น และนิโคล คิดแมน
ดรูว์ ดาวเดิล (DREW DOWDLE) – ผู้อำนวยการสร้าง
ก่อนหน้าที่จะมาเขียนบทและอำนวยการสร้างภาพยนตร์ทริลเลอร์เรื่อง Quarantine ดรูว์ ดาวเดิลก็คือผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์เขย่าขวัญอินดี้ เรื่อง The Poughkeepsie Tapes ซึ่งเขายังได้เครดิตในฐานะผู้คิดสร้างเรื่องด้วย ดาวเดิลยังทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Dry Spell ซึ่งเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกที่พี่น้องดาวเดิลร่วมงานกัน

ทัก ฟูจิโมโต้ (TAK FUJIMOTO, ASC) – ผู้กำกับภาพ
ก่อนหน้านี้ ทัก ฟูจิโมโต้เคยร่วมงานกับ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน มาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง The Sixth Sense, The Happening และ Signs ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของฟูจิโมโต้ในฐานะผู้กำกับภาพ ก็คือ ภาพยนตร์ของเทอร์เรนซ์ มาลิค เรื่อง Badlands (1973) ในเวลาต่อมา เขาได้เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ด้านกล้องให้กับภาพยนตร์ของ จอร์จ ลูคัส เรื่อง Star Wars: Episode IV—A New Hope

นับแต่นั้น ฟูจิโมโต้ได้ก้าวขึ้นสู่ชั้นแนวหน้าของวงการ ด้วยการร่วมงานในภาพยนตร์คว้ารางวัลมากมายหลายเรื่อง อาทิเช่น Melvin and Howard, Devil in a Blue Dress, The Silence of the Lambs, Philadelphia, The Manchurian Candidate, The Truth About Charlie, The Final Cut, Beloved, Breach และ A Thousand Acres นี่ยังไม่รวมถึงภาพยนตร์ที่เน้นความบันเทิงกับเรื่องที่เรียบง่ายอย่าง Swing Shift, Pretty in Pink, Married to the Mob, Grumpier Old Men, That Thing You Do! และ The Replacements ความสามารถของฟูจิโมโต้ยังมีให้เห็นเมื่อไม่นานมานี้ในภาพยนตร์เรื่อง The Great Buck Howard ซึ่งกำกับโดย ฌอน แม็คกินลี่ และนำแสดงโดย ทอม แฮงก์ส
มาร์ติน วีสท์ (MARTIN WHIST) – โปรดักชั่น ดีไซเนอร์
ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา มาร์ติน วีสท์เคยผ่านงานมาแล้วทุกแง่มุมของแผนกศิลปกรรมซึ่งเขาได้สร้างสรรค์ผลงานทั้งที่เป็นภาพยนตร์และโฆษณา
ผลงานเมื่อไม่นานนี้ของวีสท์ ในตำแหน่งโปรดักชั่น ดีไซเนอร์ ได้แก่ Tenacious D in The Pick of Destiny, Smokin’ Aces, Cloverfield และ The Promotion วีสท์ยังเคยทำงานเป็นผู้กำกับศิลป์ให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Island, Lemony Snicket’s A Series of Unfortunate Events, Along Came Polly, Down With Love และ Phone Booth เมื่อไม่นานมานี้ วีสท์ออกแบบโปรดักชั่นให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Factory ที่นำแสดงโดย จอห์น คูแซ็ค และภาพยนตร์ของ จอสส์ วีดอน เรื่อง The Cabin in the Woods

เอลเลียต กรีนเบิร์ก (ELLIOT GREENBERG) – ผู้ลำดับภาพ
ก่อนหน้านี้ เอลเลียต กรีนเบิร์กเคยร่วมงานกับพี่น้องดาวเดิลมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง Quarantine และ The Poughkeepsie Tapes และเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ทำหน้าที่ลำดับภาพให้กับภาพยนตร์ทริลเลอร์เรื่อง Sorority Row

กรีนเบิร์กเริ่มต้นทำงานด้วยการเป็นพนักงานฝึกหัด ที่ทำงานให้กับภาพยนตร์ของเวส คราเว่น เรื่อง Cursed และเป็นผู้ช่วยผู้ลำดับภาพให้กับภาพยนตร์ของคราเว่น เรื่อง Red Eye เขายังใช้เวลาสองปีทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยให้กับภาพยนตร์อีกหลายเรื่องด้วย กัน อาทิเช่น Clerks II ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ลำดับภาพให้กับบริษัท วิว แอสคู ของ เควิน สมิธ ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาในฐานะผู้ลำดับภาพ ได้แก่ Extreme Movie
เฟอร์นันโด เวลาซเควซ (FERNANDO VELÁZQUEZ) – ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบ
เฟอร์นันโด เวลาซ เควซ อดีตนักดนตรีที่ผันตัวเองมาทำงานสร้างสรรค์ดนตรีประกอบภาพยนตร์ เคยได้รับรางวัลมาแล้วมากมายจากผลงานดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Orphanage ซึ่งอำนวยการสร้างโดย กีลเลอร์โม่ เดล โทโร่

ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเวลาซเควซ ได้แก่ Savage Grace ซึ่งนำแสดงโดย จูลีแอนน์ มัวร์ และภาพยนตร์ทริลเลอร์อย่างเรื่อง BackWoods ซึ่งนำแสดงโดย แกรี่ โอลด์แมน และ Shiver เมื่อเร็วๆ นี้ เขาเพิ่งจะเสร็จสิ้นจากงานทำดนตรีประกอบให้กับภาพยนตร์เรื่อง Lope และเรื่อง Julia’s Eyes ปัจจุบัน เขาอยู่ระหว่างทำดนตรีประกอบให้กับภาพยนตร์เรื่อง The Impossible ซึ่งนำแสดงโดย นาโอมี่ วัตต์ส และยูเว็น แม็คเกรเกอร์
เอริน บีแนช (ERIN BENACH) – ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย
เอริน บีแนช เริ่มแจ้งเกิดครั้งแรกในภาพยนตร์อินดี้เรื่อง Half Nelson ซึ่งกำกับโดย ไรอัน เฟล็ค และนำแสดงโดย ไรอัน กอสลิ่ง หลังจากนั้น เธอยังได้ร่วมงานกับเฟล็คอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Sugar ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเธอ ได้แก่ ภาพยนตร์ไซไฟโลกอนาคตแนวขำขัน เรื่อง Cold Souls ซึ่งนำแสดงโดย พอล เจียอาแม็ตติ และเอมิลี่ วัตสัน และภาพยนตร์ที่เป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของ มาร์ก รัฟฟาโล่ เรื่อง Sympathy for Delicious

ผลงานเมื่อไม่นานมานี้ของเธอ ได้แก่ภาพยนตร์เรื่อง Blue Valentine ซึ่งนำแสดงโดย ไรอัน กอสลิ่ง และมิเชลล์ วิลเลี่ยมส์ และ The Lincoln Lawyer ซึ่งนำแสดงโดยไรอัน ฟิลลิปปี้, มาริสา โทเม่ และแมทธิว แม็คคอนนาเฮย์ ปัจจุบัน เธออยู่ระหว่างเตรียมงานสร้างภาพยนตร์เรื่อง Drive ซึ่งนำแสดงโดย ไรอัน กอสลิ่ง และแครี่ย์ มุลลิแกน
—devil—
credit : www.noominak.com
Movie preview : Devil
Movie preview : Devil
Movie preview : Devil
Movie preview : Devil
Movie preview : Devil
Movie preview : Devil
Movie preview : Devil

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น